Bangkok autoshop

Tags

ซิลิโคนเคลือบยางรถ ปากกาแต้มสี TAR&PITCH CLEANER XING QIU น้ำยาขัดเบาะหนังZ-one conditione ผ้าชามัวร์ x1 carnuba wax wax super white สำหรับรถสีขาว Fashine1Pitch cleaner สเปร์ยขจัด แว็กซ์เคลือบสี สูตร 12 เดือน S-MAX LEATHER CONDITIONER สร้อยหินHowlite จตุรัสไข่มุก แนว ผ้าไมโครไฟเบอร์ขนาดใหญ่ Soft99 Pearl & Metallic ฟองน้ำตัวหนอนไมโครไฟเบอร์ กันสาด civic05-11 น้ำยาหล่อเย็น ผ้าชามัวร์ Polifac Nu power engine-treatment Logoท้ายรถNissan แบบมีไฟ ฝาถังน้ำมัน to Vigo สแตนเลส G- mag engine-treatment เคลือบสีรถ black gold wax waxสำหรับสีเข้ม x-plus Engine tretment แว็กซ์น้ำยาเคลือบสีรถ ION COAT H สารเคลือบX-1R Waxน้ำยาเคลือบสีรถGUESS-1 CRYSTA ผ้าคลุมรถmtg สเปร์ยขจัดคราบฝังแน่นทุกชนิด น้ำยาเคลือบสี proof sealant ครีมลบรอยขีดข่วนและคราบฝังแน่น S น้ำยาเคลือบหนังแท้ แว็กซ์น้ำยาเคลือบสี ion coat สร้อยหินดาวประดับฟ้า เทอร์ควอยซ์ Fashine1 Multi-purpose Foam Clea ผ้าคลุมรถ CAR COVER พรมเช็คเท้า ฉนวนกันความร้อนฝากระโปรงหน้า To F1 Engine surface cleaner (โฟมล้ DUPRO CAR POLISHER Max car's engine-treatment ครอบไฟหน้าToyota vigo กรอบทะเบียนMugen z-one engine-treatment บ้ารองมือเปิดประตูNissan March น้ำยาเคลือบกระจก DUPRO สารเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ V-plu แปรงดูดฝุ่นมหัศจรรย์ปัด X-1 Plus ทำความสะอาดระบบหัวฉีดดีเซล เคลือบเงาสีรถ Z-ONE สูตรฟิล์มแ สเปรย์เคลือบสีรถ น้ำยาเคลือบเงาสีรถ

จำหน่ายCalcium Magnesium Zinc Plus D วิตามินบำรุงร่างกาย สารพัดประโยชน์

จำหน่าย Calcium Magnesium Zinc Plus Dวิตามินบำรุงร่างกาย สารพัดประโยชน์

Calcium แร่ธาตหลักเพื่อเสริมสร้างกระดูกและฟัน
Magnesium สำคัญมากในการสร้างกระดูก ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก ช่วยชะลอการเสื่อมของกระดูก ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม
Zinc สังกะสีเป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ร่างกายมนุษย์เรา จำเป็นต้องใช้ในกระบวนการทางเคมี ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาร่วมกับเอ็มไซน์

เราขายในราคาถูกและทดลองใช้จนมั่นใจ

More details

On sale On sale!
400฿ tax incl.

650฿ tax incl.


จำหน่ายCalcium Magnesium Zinc Plus Dวิตามินบำรุงร่างกาย สารพัดประโยชน์

บรรจุ60แคปซูล

คุณประโยชน์

  • ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เสริมสร้างมวลกระดูก ป้องกันกระดูกพรุน
  • ช่วยให้กล้ามเนื้อยืด-หด ตัวดี
  • บำรุงระบบประสาทและระบบสืบพันธ์
  • ป้องกันตะคริว ปวดเกร็ง ปวดศรีษะหรือไมเกรน
  • ป้องกันข้อเสื่อม ข้ออับเสบ ลดอาการบวมตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์
  • ผ่อนคลายระบบประสาท ลดความเครียด
  • ช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น
  • ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย(ความสูง)
  • ป้องกันโรคกระเพาะและช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
  • ลดการหดเกร็งของหลอดลมในผู้ป่วยโรคหลอดลม หอบ หืด
  • ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
  • ป้องกันไม่ให้ตาบอดในผู้สูงอายุ การสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุที่เรียกว่า macular degeneration นั้นพบว่าเกิดจากการขาดธาตุสังกะสี

เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่มีความเครียด มือเท้าชา เป็นตะคริวบ่อย ๆ
  • เด็กเล็กและวัยรุ่น เพื่อเสริมการเจริญเติบโตให้สูงไวๆ
  • ผู้ที่ต้องการเสริมแคลเซียม ป้องกันกระดูกพรุน
  • สำหรับคนที่ผมร่วง เสริมสร้างการสร้างรากผม

ทานครั้งละเม็ด พร้อมอาหาร

 

 

ความสำคัญของแมกนีเซียม

  • Principal  Mineral   องค์ประกอบของกระดูก, เซลล์, กล้ามเนื้อ สมองและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
  • Co-factor of enzyme   มีโอกาสขาดได้ง่ายรองจาก แคลเซียมยาบางชนิด โรคเบาหวาน โรคติดเหล้า

หน้าที่และ ประโยชน์

  • ระบบกล้ามเนื้อ บรรเทาโรคหอบหืด ปวดปจด. ปวดเค้นหน้าอก ตะคริว
  • ระบบประสาท บรรเทาอาการไมเกรน ซึมเศร้า เครียด
  • กระตุ้นกทง.ของเอนไซม์ในการเผาผลาญสารอาหาร สังเคราะห์โปรตีน
  • ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
  • จำเป็นสำหรับการเติบโตของกระดูกและฟัน
  • ช่วยควบคุมสมดุลของกรด-ด่างในร่างกาย ป้องกันไม่ให้แคลเซียม จับตัวอยู่ตามอวัยวะต่างๆ เช่น ไต

แมกนีเซียม เหมาะสำหรับใคร

  • ผู้มีความเครียดสูง
  • ผู้ที่มือเท้าชาบ่อยๆ หรือเป็นตะคริวบ่อยๆ
  • ผู้ที่เป็นโรคลมบ้าหมู (ควรปรึกษาแพทย์)
  • ผู้ที่ทานนม อาหารปรุงแต่ง น้ำอัดลม เหล้า ในปริมาณมาก
  • ผู้ป่วยที่ทานยาขับปัสสาวะ
  • ผู้ที่ต้องการป้องกันตนเองจากความดันโลหิตสูง หลอดเลือดแข็งตัว โรคหัวใจ นิ่วในไต โรคกระดูกพรุน

ผลของการรับประทาน แมกนีเซียม ไม่เพียงพอ

  • อาการผิดปกติเกี่ยวกับการย่อยอาหาร
  • ระบบประสาทจะถูกทำลาย
  • เก็บสะสมพลังงานไว้ไม่ได้
  • ภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายต่ำลง
  • กระดูกอ่อนจนร่างกายรับน้ำหนักไม่ไหว
  • สังเคราะห์ฮอร์โมนเพศไม่ได้

ขนาดรับประทาน

  • เด็กทารก ต้องการประมาณวันละ 50 - 70 มก.
  • เด็กโต ต้องการประมาณวันละ 150 - 250 มก. (1 เม็ด)
  • ผู้ใหญ่ต้องการประมาณวันละ 350 - 450 มก. (2 เม็ด)
  • หญิงมีครรภ์และระยะให้นมบุตรประมาณวันละ 450 - 600 มก. (2 เม็ด)

(อาหารที่มี แมกนีเซียม ประมาณ 300-800 มก. จึงจะเพียงพอกับความต้องการ)

แคลเซียม เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต – ฟัน กระดูก เส้นผม และผิวหนัง ต่างก็เป็นส่วนของร่างกายที่ไม่สามารถปราศจากแคลเซียมได้ แม้เป็นที่ทราบดีว่า แคลเซียมมีผลกระทบต่อสุขภาพฟัน แต่คุณทราบหรือไม่ว่า แคลเซียมนั้นมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความดันเลือดสูง (hypertension) และการควบคุมน้ำหนักตัวด้วยเช่นกัน เป็นที่เชื่อกันว่า แคลเซียม ตลอดจน เกลือแร่ชนิดจำเป็น เช่น แมกนีเซียม และโปแตสเซียม เป็นสิ่งจำเป็นต่อความสำเร็จของการบริโภคตามแบบ DASH (หรือ แนวทางการบริโภคเพื่อหยุดความดันเลือดสูง) ต่อไปนี้เป็นการนำเสนอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การลดความดันเลือดเพื่อให้สามารถควบคุมน้ำหนักตัวให้ง่ายขึ้น
ปริมาณแคลเซียมที่ได้รับจากการบริโภคต่อวันของชาวเอเชีย ต่ำกว่าระดับที่พวกเขาสมควรได้รับต่อวัน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับกลุ่มที่มีความต้องการมากที่สุด ได้แก่ ทารก วัยเด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และ ผู้สูงอายุ แม้อาหารของชาวเอเชียจะประกอบด้วยแหล่งให้แคลเซียมอยู่บ้าง แต่จากการวิจัยแนะนำควรรับประทานอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมเพิ่มเติม และ/หรือ เป็นการดีหากเติมอาหารเสริมลงไปในอาหารเพื่อให้ถึงระดับที่สมควรได้รับอย่าง เหมาะสม ข้อแนะนำนี้ใช้ได้ทั้งในวัยเด็กเพื่อให้เป็นรากฐานเพื่อสุขภาพที่ดี และในวัยผู้ใหญ่เพื่อชะลอกระบวนการที่ก่อให้เกิดความชราภาพ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การบริโภคอาหารที่ประกอบด้วยแคลเซียมอย่างพอเพียง เป็นเป้าหมายที่คุณต้องยึดถือมั่นไว้ตลอดช่วงอายุขัย
แคลเซียม คือ อะไร?
แคลเซียมเป็นเกลือแร่ที่พบอยู่มากที่สุดในร่างกายมนุษย์ประมาณ 1.5 ถึง 2% ของน้ำหนักร่างกายโดยรวมในวัยผู้ใหญ่ ฟันและกระดูกเป็นแหล่งที่ประกอบด้วยแคลเซียมมากที่สุดของแคลเซียมที่มีอยู่ ทั้งหมดในร่างกาย คิดเป็นประมาณ 99% แคลเซียมที่อยู่ในเนื้อเยื่อเหล่านี้ ส่วนมากอยู่ในรูปของเกลือแคลเซียมฟอสเฟต ส่วนเซลล์ประสาท เนื้อเยื่อร่างกาย เลือด และของเหลวอื่นๆ ในร่างกาย ประกอบด้วยแคลเซียมที่เหลือ
แคลเซียมมีประโยชน์อย่างไรต่อตัวคุณ?
เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลรักษาสุขภาพฟันและกระดูกให้ดีอยู่เสมอ ร่างกายนำแคลเซียมมาใช้ในการสร้างกระดูก เช่นเดียวกับเนื้อเยื่ออื่นๆ ในร่างกาย เนื้อเยื่อกระดูกมีการดูดแคลเซียมกลับคืนและสร้างกระดูกอย่างต่อเนื่อง และการมีปริมาณแคลเซียมที่พอเพียงอยู่ตลอดเวลาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อ รักษาวงจรนี้ไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงระยะเวลาของชีวิตที่มีการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน เวลาที่สำคัญที่สุด คือ ระยะเวลาในการตั้งครรภ์และให้นมบุตร ตามมาด้วยช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เด็กหญิงและชายส่วนใหญ่มีส่วนสูงและขนาดกระดูกเพิ่มขึ้น ในอัตราที่รวดเร็ว กลุ่มอายุที่สำคัญอันดับสาม ได้แก่ เด็กวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่มีกระดูกและฟันเติบโตในอัตราที่รวดเร็ว ร่างกายมีความต้องการแคลเซียมเพื่อการทำงานอื่นๆ เช่น การจับตัวเป็นลิ่มเลือด การส่งผ่านของกระแสประสาท การทำงานของกล้ามเนื้อ การเต้นตามปกติของหัวใจ การกระตุ้นให้เกิดการหลั่งของฮอร์โมน และการกระตุ้นปฏิกิริยาของเอ็นไซม์ต่างๆ
แคลเซียมและสุขภาพของคุณ
ร่างกายคุณต้องการอาหารที่สมดุลที่ประกอบด้วยทั้งสารอาหารหลัก (ให้พลังงาน โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต) และสารอาหารรอง (วิตามิน และเกลือแร่) เพื่อการเจริญเติบโตและการทำงานปกติ แคลเซียมเป็นเกลือแร่ชนิดจำเป็นที่ร่างกายต้องการในปริมาณที่มากกว่าสาร อาหารรองชนิดอื่นๆ และมีบทบาทสำคัญในการทำงานของร่างกายที่สำคัญ
การส่งเสริมสุขภาพของกระดูก
แคลเซียมเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญของเนื้อเยื่อกระดูก อีกทั้ง โครงกระดูกทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บสะสมแคลเซียม เพื่อรักษาไว้ซึ่งระดับแคลเซียมในกระแสเลือด จากการศึกษาพบมีความเชื่อมโยงกันระหว่างแคลเซียมและสุขภาพของกระดูกในเกือบ ทุกกลุ่มอายุ : มีการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าพบว่าการได้รับแคลเซียมจากอาหารในปริมาณที่ พอเพียงในวัยเด็กและวัยรุ่น ช่วยให้มีความหนาแน่นของกระดูกที่ดีขึ้น ; การศึกษาสตรีวัยสาวสุขภาพดีเป็นเวลานาน 3 ปี แสดงให้เห็นว่าการได้รับอาหารประเภทนมที่อุดมไปด้วยแคลเซียมเพิ่มขึ้น ช่วยป้องกันการสูญเสียกระดูกในกระดูกสันหลัง เมื่อเทียบกับสตรีกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับแคลเซียมจากอาหารเพิ่มขึ้น; ท้ายสุดนี้, การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการได้รับแคลเซียมและวิตามินดีจากอาหารเพิ่มมากขึ้น ทำให้อัตราการสูญเสียกระดูกและการแตกหักของกระดูกลดลงในสตรีและบุรุษสูงอายุ
ที่เกี่ยวข้องอย่างมากเกี่ยวกับภูมิภาคเอเชีย มีหลักฐานที่ชัดเจนบ่งชี้ว่า ชาวเอเชียไม่ได้มีพันธุกรรมที่มีร่างกายที่ต่ำเตี้ยกว่าชาวผิวขาวแต่อย่างใด และเด็กชาวเอเชียที่มีการบริโภคดีที่ประกอบด้วยเกลือแร่ชนิดจำเป็นครบทุก ชนิดตั้งแต่วัยเยาว์ รวมทั้ง แคลเซียม (ซึ่งตามประวัติศาสตร์แล้วได้รับในปริมาณที่ไม่พอเพียง) สามารถเติบโตสูงใหญ่ได้ใกล้เคียงกับชาวตะวันตก
ควบคุมน้ำหนักตัว
เป็นที่ค้นพบว่าการได้รับปริมาณของแคลเซียมจากอาหารที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรูปของอาหารประเภทนม มีบทบาทสำคัญในการควบคุมน้ำหนักตัว แม้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมอยู่มาก จะช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัวได้อย่างไร แต่จากการศึกษาในปัจจุบันบ่งชี้ว่า อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมสูง สามารถช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงรสชาติในอาหารมื้อปกติของคุณ ทั้งนี้ เนื่องจากการมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นทำให้คุณตกอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเกิด ความดันโลหิตสูงและความเสี่ยงร้ายแรงอื่นๆ ต่อสุขภาพ เช่น โรคหัวใจและโรคลมเหตุ ดังนั้น การบริโภคอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมไขมันต่ำ 2-3 ครั้ง ต่อวัน เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การควบคุมน้ำหนักตัวแต่ละบุคคล ที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ เหล่านี้ได้ทางอ้อม
การควบคุมไม่ให้มีความดันเลือดสูง
อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมทั่วไปและที่มีไขมันต่ำในอาหารของคุณสามารถช่วยควบ คุมความดันโลหิตสูงด้วยเช่นกัน การได้รับแคลเซียมที่เพิ่มขึ้นไม่ว่าทางใดก็ตาม ปรากฏเด่นชัดว่าสามารถทำให้ความดันโลหิตลดลง และบางทีไม่เป็นที่น่าแปลกใจหาก ผู้ที่ได้รับแคลเซียมต่ำสุดก่อนเข้ารับการรักษาจะได้รับประโยชน์สูงสุดจาก การบริโภคแคลเซียม
สำหรับผู้ที่คำนึงถึงแต่อาหารมากกว่าสารอาหาร การบริโภคตาม DASH ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันความดันโลหิตสูง การบริโภคตาม DASH เน้นถึงปริมาณเมล็ดธัญพืช ผลไม้ ผักและอาหารประเภทนมไขมันต่ำที่มากพอ; พร้อมแนะนำให้จำกัดการบริโภคเกลือ โซเดียม และแอลกอฮอล์; และแนะนำให้มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ DASH ยังสามารถช่วยคงไว้ซึ่งน้ำหนักตัวที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากการบริโภคอาหารไขมันต่ำและมีแคลเซียมสูง
คุณต้องการแคลเซียมมากแค่ไหน
ความต้องการของแคลเซียม เบื้องต้นวัดได้จากสมดุลระหว่างปริมาณแคลเซียมที่ถูกดูดซึมจากอาหารเข้าสู่ ร่างกาย และปริมาณที่สูญเสียออกจากร่างกายผ่านการขับถ่ายปกติ และจากการซ่อมแซมและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาทดแทน ในวัยผู้ใหญ่ การดูดซึมแคลเซียมโดยรวม จำเป็นต้องพอดีกับอัตราการสูญเสียออกจากร่างกายหากไม่ต้องการให้เกิดการสูญ เสียมวลกระดูก และลดความเสี่ยงของโรคและการแตกหักของกระดูก ในวัยเด็กและผู้ใหญ่ จำเป็นต้องมีการดูแลเพิ่มเติมให้เพียงพอต่อความต้องการการเจริญเติบโต ของกระดูก ปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นในบางช่วงเวลา เช่น ในระหว่างตั้งครรภ์ ช่วงให้นมบุตร และระยะมีประจำเดือนเริ่มต้น เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะที่เกิดการเปลี่ยนแปลง

คำแนะนำโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งประชาชาติและองค์การอนามัยโลก (2002)
ให้รับประทานแคลเซียมต่อวัน
กลุ่มอายุ ความต้องการแคลเซียมต่อวัน
ต่ำกว่า 10 ปี 500 – 700 มิลลิกรัม
อายุ 10 – 18 ปี 1300 มิลลิกรัม
19 – 65 ปี 1000 มิลลิกรัม
65 ปี ขึ้นไป 1300 มิลลิกรัม
สตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรหรือหลังมีประจำเดือน 1300 มิลลิกรัม

แหล่งที่มา : เว็บไซต์มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ , www.iof.com

ควรรับประทานอาหารประเภทใด?
ผลิตภัณฑ์ประเภทนมเป็นหนึ่งในจำนวนแหล่งอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมมากที่สุด นมและผลิตภัณฑ์นม เช่น โยเกิร์ต เนยแข็ง นมข้นแข็งหรือนมเปรี้ยว เช่น แพเนียร์ (paneer) และเนยสด เป็นแหล่งที่อุดมด้วยแคลเซียมที่สำคัญ อีกทั้ง ยังถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดี การบริโภคอาหารประเภทนม 2 หรือ 3 มื้อ (นมหนึ่งแก้วขนาด 200 มิลลิลิตร เทียบเท่าหนึ่งหน่วยบริโภค), เป็นหลักประกันที่ดีว่าเด็กและผู้ใหญ่ทุกคน จะได้รับปริมาณของแคลเซียมต่อวันที่เพียงพอ
ผักใบเขียว เช่น บอคคอลี ผักโขม กะหล่ำปลี มัสตาร์ดเขียว บอคชอย หรือกะหล่ำปลีจีน เป็นแหล่งของแคลเซียมที่พบได้ทั่วไปในอาหารของชาวเอเชียที่สามารถถูกดูดซึม ได้ดีในร่างกาย การบริโภคปลา เช่น ปลาแองโชวี หรือ อิคาน บิลิส ikan bilis, ตลอดจนปลาซาร์ดีนหรือแซลมอนบรรจุกระป๋อง เป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีเยี่ยมในอาหารสำหรับชาวเอเชียทั่วไป นอกจากนี้ พืชจำพวกถั่ว เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเมล็ดแบน สามารถที่จะให้ประโยชน์แม้ว่าจะมีปริมาณการดูดซึมของแคลเซียมน้อยกว่าเมื่อ เทียบกับแหล่งอาหารชนิดอื่น
ผลิตภัณฑ์ประเภทที่ทำมาจากถั่วเหลืองพบอยู่ทั่วไปในอาหารของชาวเอเชีย ตั้งแต่เทมเป้ของชาวอินโดนีเซีย, เส้นเต้าหู้แห้งของชาวจีน ถั่วหมักหรือนัตโต้ (natto) หรือถั่วเหลืองหมักของชาวญี่ปุ่น เต้าหู้ที่อุดมด้วยแคลเซียมที่มีรูปลักษณ์และอยู่ในรูปต่างๆ เช่น มิโซและเต้าหู้ถั่วเหลืองและนมถั่วเหลือง ก็เป็นแหล่งที่อุดมด้วยแคลเซียมเช่นกัน แต่ผู้บริโภคควรตรวจสอบให้เกิดความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณเลือกซื้อมานั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแคลเซียมอยู่สูงหรือไม่ อีกทั้ง คุณสามารถเลือกหาผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองเสริมแคลเซียมที่อยู่ในรูปผลิตภัณฑ์ ใหม่ๆ จำนวนมาก เช่น ไอศครีม และของหวาน เพื่อเพิ่มปริมาณการได้รับแคลเซียมของคุณเอง

ปัจจุบัน อาหารของชาวเอเชียที่มีปริมาณแคลเซียมสูงมีเพิ่มมากขึ้น อีกทั้ง ผลิตภัณฑ์ประเภทนมและถั่วเหลือง ผักชนิดต่างๆ เช่น ถั่ว และผักชนิดต่างๆ ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม เช่น น้ำส้มคั้น และขนมขบเคี้ยวที่ทำจากธัญพืชต่างๆ ก็นับเป็นแหล่งที่หาง่ายและมีรสชาติ ที่จะช่วยให้คุณได้รับปริมาณแคลเซียมที่มีอยู่ในอาหารมากยิ่งขึ้น

อาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมทั่วไป
ประเภทอาหาร: นม ปริมาณแคลเซียม (เป็นมิลลิกรัม)
นมที่ไม่ได้เอาครีมออก (1 ถ้วย/244 กรัม) 280 มิลลิกรัม
นมพร่องไขมันเสริมไขมัน (1 ถ้วย/247กรัม) 500 มิลลิกรัม
โยเกิร์ตไขมันต่ำ (1 ถ้วย/8 ออนซ์ (fl. oz)) 450 มิลลิกรัม
ไอศครีมวานิลลา (1 ถ้วย/72 กรัม) 100 มิลลิกรัม
เนยหรือนมข้นแข็ง (ตัวอย่างเช่น แพเนียร์) (1 ชิ้น /40 กรัม) 280 มิลลิกรัม
ประเภทอาหาร: ถั่วเหลือง
เต้าหู้ไข่ไก่ (100 กรัม) 30 มิลลิกรัม
เต้าหู้เสริมแคลเซียม (1/2 ถ้วย, 126 กรัม)) 250 มิลลิกรัม
ถั่วเหลือง (1 ถ้วย/245กรัม) 90 มิลลิกรัม
นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม (1 ถ้วย/245 กรัม) 370 มิลลิกรัม
ประเภทอาหาร: ปลาบรรจุกระป๋อง
ปลาแซลมอนบรรจุกระป๋องมีกระดูก (1 ถ้วย/454 กรัม) 970 มิลลิกรัม
ปลาซาร์ดีนบรรจุกระป๋องมีกระดูก (1 ถ้วย/ 370 กรัม) 900 มิลลิกรัม

แหล่งที่มา: ห้องปฏิบัติการข้อมูลโภชนาการ หน่วยบริการการวิจัยด้านการเกษตร กรมวิชาการเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา

สุขภาพของคุณในระยะยาว
การได้รับแคลเซียมที่อยู่ในอาหารของคุณอย่างพอเพียง เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อสุขภาพที่ดีโดยรวมทั้งในปัจจุบันและในอนาคต อีกทั้ง การได้รับอาหารที่สมดุลและมีความหลากหลายนั้น นับเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายของคุณนำแคลเซียมที่คุณได้รับจากอาหารมา ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ดังนั้น สิ่งคุ้นเคยที่ผ่านการพิสูจน์ ค้นคว้า และทดสอบจากการรับประทานอาหารประเภทผลไม้ ผัก และเมล็ดธัญพืช ตลอดจนผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ หรือผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองที่อุดมด้วยแคลเซียมที่มีระดับของไขมันอิ่มตัวและ น้ำตาลต่ำ ตลอดจนปริมาณเนื้อ ปลา และไข่ในปริมาณที่เหมาะสมนั้น เป็นสิ่งช่วยให้ได้รับสารอาหารประเภทแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสม

เอกสารอ้างอิง :
International Osteoporosis Foundation website: www.osteofound.org
USDA Agricultural Research Service, Nutrient Data Laboratory: http://www.nal.usda.gov/fnic/foodcomp/Data/
Zemel, B. Michael, Calcium Modulation of Hypertension and Obesity: Mechanisms and Implications, Journal of the American Colleage of Nutrition, Vol. 20, No. 5, 428S – 435S (2001)
WHO Child and Adolescent Health and Development: http://www.who.int/child-adolescent-health/
McCarron & Reusser (1999) Finding Consensus in the Dietary Calcium-Blood Pressure Debate: Journal of the American College of Nutrition, Vol. 18, No. 90005, 398S-405S (1999)


สังกะสี, แร่ธาตุ
สังกะสี แร่ธาตุดีมีประโยชน์



คุณผู้อ่านรู้หรือเปล่าคะว่าสังกะสี มีประโยชน์อย่างไรกับมนุษย์เราบ้าง หลาย ๆ คนอาจจะตอบว่าเอาไว้มุงหลังคา เอาไว้ทำบ้านบ้างแหล่ะ ถ้าตอบอย่างนั้นขอบอกเลยค่ะว่าผิด เพราะว่าสังกะสีที่ผู้เขียนพูดถึงหมายถึงแร่ธาตุ สังกะสีค่ะ ถึงตรงนี้แล้วหลาย ๆ คนคงจะอยากรู้แล้วใช่ไหมว่าสังกะสีมีประโยชน์กับร่างกายของเราอย่างไรบ้าง วิตามินบำบัดฉบับนี้จะพาคุณไปรู้จักกับประโยชน์ของสังกะสีกันค่ะ
สังกะสีเป็นแร่ธาตุที่คนเราต้องการในปริมาณเพียงเล็กน้อย ในร่างกายมีสังกะสีประมาณ 1-2.5 กรัม ซึ่งจะพบได้มากในกระดูก ฟัน เส้นผม ผิวหนัง ตับ กล้ามเนื้อ และอัณฑะ สังกะสีเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ในร่างกายมากกว่า 300 ชนิด ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต การสร้างโปรตีน การสร้างภูมิคุ้มกันโรค การเจริญของระบบสืบพันธุ์ การมองเห็น การหายของบาดแผล และป้องกันเซลล์จากการทำลายโดยอนุมูลอิสระ สังกะสีมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา ดังต่อไปนี้

  • ชะลอความแก่ หรือยืดอายุความเป็นหนุ่มสาวให้ยาวขึ้นได้ โดยสังกะสีจะช่วยชะลอความแก่ตายของเซลล์ตามธรรมชาติให้ช้าลง ถ้าเซลล์สมองถูกทำลายความคิด และความจำ ความคล่องแคล่วจะลดลง
  • ช่วยในเรื่องของผิวพรรณและความงาม เช่น ป้องกันสิว และช่วยให้ผิวที่มีแผลเป็นหรือสิวเกิดการสมานตัวเร็ว ฉะนั้นรอยแผลหรือรอยสิวที่อักเสบก็จะหายได้
  • ช่วยให้ระบบภูมิต้านทานโรคแข็งแรง ช่วยการปฏิบัติงานของเม็ดเลือดขาว หรือที่เรียกว่า ลิมโฟไซต์ ( LYMPHOCYTE ) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ต่อต้านเชื้อโรคที่บุกรุกเข้าไปในร่างกาย ดังนั้นในขณะที่มีคนที่เป็นต้อกระจก ในดวงตาหรือในร่างกายจะมีสังกะสีต่ำ ซึ่งธรรมดาแล้วในดวงตาจะมีสังกะสีสูง ดังนั้น สังกะสีมีความสำคัญที่จะช่วยในการมองเห็นได้ชัด ในรายที่ไม่สามารถมองเห็นได้ในที่มืด ทั้งนี้เพราะการกินวิตามินเอ อย่างเดียวไม่เป็นการเพียงพอ จำเป็นต้องมีสังกะสีช่วยด้วย
  • ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายวัยทอง เพราะผู้ชายสูงวัยมักจะมีปัญหาเรื่องของต่อมลูกหมากโต ทำให้ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะไม่พุ่ง ถ้าทิ้งไว้ก็จะทำให้ไตเสื่อมตามมา หรือต่อมลูกหมากโตก็อาจจะกลายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ เพื่อป้องกันปัญหานี้ ผู้ชายวัยทองควรจะต้องได้รับสังกะสีในอาหารเป็นประจำ ถ้าให้ก่อนที่จะมีอาการก็จะยิ่งดี จะเป็นการป้องกันโรคของต่อมลูกหมากไปในตัว

สำหรับร่างกายมนุษย์แล้วไม่สามารถสร้างหรือสังเคราะห์ สังกะสี ได้ขึ้นเอง จำเป็นต้องบริโภคอาหารเพื่อให้ได้รับสารดังกล่าว ซึ่งแหล่งอาหารตามธรรมชาติที่มีปริมาณ สังกะสี สูง ได้แก่ เนื้อสัตว์ ตับ หอยนางรม เมล็ดฟักทอง จมูกข้าวสาลี โดยเฉพาะสองอย่างหลังนี้เป็นแหล่ง สังกะสี ที่ดีที่สุด
ดังนั้นถ้าต้องการกินสังกะสีเพื่อสุขภาพแนะนำว่าให้กินจมูกข้าวสาลีวันละ 1-2 ช้อนโต๊ะเป็นประจำ หรือจะกินเมล็ดฟักทองที่ไม่ใส่เกลือวันละ 60 เม็ดแทนก็ได้

 

เครดิตโดย Pro Nature

ตะกร้าสินค้า  

(ว่าง)

User Online

User Online: 3
Today Accessed: 179
Total Accessed: 285936
Your IP: 3.138.114.94